7 เม.ย. 2556

ตอไผ่เลี้ยงหวานกับราสีส้ม

ราสีส้มบนต่อไม้ไผ่ หลังจากที่ได้ตัดกอไผ่เลี้ยงหวานจำนวนหลายสิบกอ เพื่อปรับพื้นที่บริเวณนี้สำหรับที่จะปลูกผักหวานป่า อันที่จริงผมได้ปลูกผักหวานป่า จำนวนร้อยกว่าต้น เมื่อปีที่แล้วและอยู่รอดปลอดภัยเติบโตตามวัย มาจนถึงวันนี้ก็สักประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นไม่งอกจากเมล็ด ไม่โตและเปลี่ยนใบจากสีเขียวเป็นใบสีขาว และต้นตายเมื่องอกจากเมล็ดได้ไม่นาน

พื้นที่ตรงบริเวณนี้เคยเป็นไร่มันสำปะหลังมาก่อน และก่อนหน้านั้นก็เคยปลูกทานตะวัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และพืชอีกหลายชนิด เกษตรกรก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ ยิ่งปลูกยิ่งจนทั้งที่พืชบางชนิดเป็นพืชเศรษฐกิจ และสามารถสร้างความรวยและความจนไปพร้อมๆกัน ถ้าการบริหารจัดการที่ดี ราคาขึ้นๆลงๆ ของพืชแต่ละชนิด ตามความต้องการของตลาดและตามความต้องการของเกษตรกร(อยากปลูก) แห่พากันปลูกมาก ราคาพืชผลก็จะแปรผันไปด้วย

นี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผล ที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง และเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากที่เคยปลูกพืชไร่ มาหลายสิบปี จนดินสำหรับเพาะปลูกแข็งกระด้าง แร่ธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชลดลง ยิ่งปลูกรายได้ยิ่งลด ตรงกันข้ามกับราคาปุ๋ยที่มีแต่จะสูงขึ้น ราคายาปราบศัตรูพืชก็เช่นกัน แถมยังเป็นภัยกับตัวเกษตรกรอีกด้วย

ระยะเวลา 5-10 ปีมานี้ มีพืชที่นิยมปลูกตามกระแส ไม่ว่าจะเป็นการปลูกไผ่เพื่อขายหน่อ ผมเองก็เอากับเขาด้วยปลูกไผ่เลี้ยงหวานจำนวน 40 กอ เพื่อขายหน่อและเพื่อตัดลำไว้ใช้งาน ปลูกไผ่หม่าจู จำนวน 50 กอ และปลูกไผ่กิมซุ่งหรือไผ่ตงลืมแล้ง ประมาณ 200 กว่ากอ ปัจจุบันไผ่กิมซุ่งให้ผลผลิตแล้ว ไผ่หม่าจูก็กำลังดูแลยังไม่เร่งขายหน่อ ส่วนไผ่เลี้ยงหวานได้ตัดกอไผ่ทั้งหมด เพื่อปรับเปลี่ยนปลูกผักหวานป่า ซึ่งก็ได้ปลูกไปบ้างแล้วเมื่อปีก่อน ส่วนปีนี้กำลังปรับเปลี่ยนเพื่อจะปลูกผักหวานป่า อีกสัก 500 ต้น


การกำจัดกอไผ่เลี้ยงหวานนั้นไม่ใช่งานง่ายเลย ตัดแล้วเผาตอแล้ว ก็ยังมีหน่อไม้งอกขึ้นมาให้เชยชมอีก บางส่วนก็นำไปต้มกินกับน้ำพริก แต่ที่น่าแปลกคือหลังจากที่ได้ตัดกอไผ่เลี้ยงหวานและเผาตอแล้ว ผ่านไปหลายวันนึกว่าจะตายไปเสียแล้ว กลับมีหน่อไม้งอกขึ้นมา บางตอก็มีลักษณะคล้ายกับราซึ่งมีสีส้มอยู่บนตอไม้ไผ่ น่าแปลกใจไม่น้อย

ส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ไผ่มีอายุการใช้งานสั้น คือ ปริมาณแป้งและน้ำตาลในเนื้อไม้ ซึ่งเป็นอาหารโปรดของมอด ไผ่แต่ละช่วงการเจริญเติบโตมีปริมาณแป้งแตกต่างกัน โดยจะมีปริมาณแป้งภายในลำมากก่อนแตกหน่อ และไผ่จะมีปริมาณแป้งเมื่อไผ่มีอายุมากกว่า 1 ปี จึงทำให้มีข้อสรุปในเบื้องต้นว่า ตอไผ่เลี้ยงหวานที่ได้ตัดและเผาไปนั้น เมื่อมีความชื่นที่เหมาะสม จึงทำให้เกิดมีราขึ้นมา เพราะได้อาหารที่เป็นแป้งจากตอไม้ไผ่นั้นเอง

หลังจากที่มีราสีส้มขึ้นกินอาหารจำพวกแป้งบนตอไม้ไผ่เลี้ยงหวาน ผมได้เผาตอไม้ไผ่อีกสองสามครั้งจนแน่ใจว่าไผ่ตายแน่ๆ และคงจะไม่มีหน่องอกขึ้นมาอีก ก็ปรับพื้นที่และเตรียมดินพร้อมสำหรับการปลูกผักหวานป่า เมื่อเมล็ดผักหวานป่าที่ได้สั่งซื้อมาถึง พื้นที่แห่งนี้เมื่อวันวานเป็นสวนไผ่เลี้ยงหวาน อนาคตจะกลายเป็นพืชยอดนิยม นั้นก็คือต้นผักหวานป่านั้นเอง…ลาก่อนไผ่เลี้ยงหวาน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น