หลังจากที่เราได้นำเมล็ดผักหวานป่า ที่สุกและสมบูรณ์ คือมีสีเหลืองทั้งเมล็ด ให้นำมาใส่ไว้ในภาชนะที่ระบายอากาศได้ดีเพื่อที่จะให้เปลือกอ่อนนุ่ม จะสะดวกในการเอาเปลือกและเนื้อออก ถ้าเมล็ดผักหวานป่ามีจำนวนไม่มากนัก ให้ใช้มือ โดยสวมถุงมือเพื่อป้องกันการระคายเคือง แต่ถ้ามีเมล็ดผักหวานป่าจำนวนมากๆ การเอาเนื้อและเปลือกออกโดยการเยียบย่ำ แต่ต้องไม่ลง น้ำหนักมากจะทำให้เมล็ดผักหวานป่าช้ำและเกิดความเสียหายได้ซึ่งจะมีผลต่อ การงอก
หลังจากที่เราเอาเปลือกและเนื้อออกหมดแล้ว ต่อจากนั้นให้นำเมล็ดผักหวานป่า ไปล้างด้วยน้ำเปล่าจนแน่ใจว่าสะอาด เพราะเนื้อผลผักหวานมีรสหวาน เชื้อราชอบ และถ้าเกิดเชื้อราแล้วเมล็ดจะเสื่อมความงอก แล้วจึงนำเมล็ดผักหวานป่า วางเรียงบนกระสอบป่านหรือภาชนะอื่นๆที่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี และเก็บไว้ในที่ร่มประมาณ 2-3 วัน ห้ามตากแดดเป็นอันขาด เกลี่ยให้เสมอกันถ้ามีจำนวนมากใช้ซ้อนกันได้ไม่เกิน 3 ชั้น
เมื่อเราตากเมล็ดผักหวานป่า ครบจำนวน 2-3 วันแล้ว ให้นำเมล็ดผักหวานป่า ไปเพาะเมล็ด และก่อนที่จะเพาะให้เราคัดเลือกเมล็ดที่ไม่สมบูรณ์ ออกจากเมล็ดที่สมบูรณ์ก่อน โดยวิธีการแบบง่ายๆ นั้นก็คือ นำเมล็ดผักหวานป่าที่ได้ทั้งหมดไปแช่น้ำ แล้วคัดแยกออก โดยนำเมล็ดที่ลอยน้ำใส่ไว้ในภาชนะที่มีน้ำยาเร่งราก ที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 1 ประมาณ 30 นาที
หลังจากที่เราเอาเปลือกและเนื้อออกหมดแล้ว ต่อจากนั้นให้นำเมล็ดผักหวานป่า ไปล้างด้วยน้ำเปล่าจนแน่ใจว่าสะอาด เพราะเนื้อผลผักหวานมีรสหวาน เชื้อราชอบ และถ้าเกิดเชื้อราแล้วเมล็ดจะเสื่อมความงอก แล้วจึงนำเมล็ดผักหวานป่า วางเรียงบนกระสอบป่านหรือภาชนะอื่นๆที่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี และเก็บไว้ในที่ร่มประมาณ 2-3 วัน ห้ามตากแดดเป็นอันขาด เกลี่ยให้เสมอกันถ้ามีจำนวนมากใช้ซ้อนกันได้ไม่เกิน 3 ชั้น
เมื่อเราตากเมล็ดผักหวานป่า ครบจำนวน 2-3 วันแล้ว ให้นำเมล็ดผักหวานป่า ไปเพาะเมล็ด และก่อนที่จะเพาะให้เราคัดเลือกเมล็ดที่ไม่สมบูรณ์ ออกจากเมล็ดที่สมบูรณ์ก่อน โดยวิธีการแบบง่ายๆ นั้นก็คือ นำเมล็ดผักหวานป่าที่ได้ทั้งหมดไปแช่น้ำ แล้วคัดแยกออก โดยนำเมล็ดที่ลอยน้ำใส่ไว้ในภาชนะที่มีน้ำยาเร่งราก ที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 1 ประมาณ 30 นาที